กระเบื้องแสงรุ้งกลาสโมเสค
Pakarung - Think Ceramic Think Pakarung
ซิเบลโก้ มิเนอร์รัลส์ จัดหาแร่คุณภาพสำหรับอุุตสาหกรรมเซรามิคส์
Ferro
Keramat
MS Industrial Supplies
Ceramics R Us
เถ้ากระดูก (Bone ash)

เถ้ากระดูก (Bone ash)
ดร. คชินท์ สายอินทวงศ์

สูตรทางเคมีโดยทั่ว ๆ ไปเป็น 4Ca3(PO4)2CaCO3 มีมวลโมเลกุล 134
มีแคลเซี่ยมฟอสเฟตอยู่ 67-85% แคลเซี่ยมคาร์บอเนต 3-10% แมกนีเซียมฟอสเฟต 2-3% และมีแคลเซี่ยมฟลูออไรด์ปนอยู่ในปริมาณที่ไม่มากนัก

การผลิต Bone ash ที่เป็นผงละเอียดสำหรับใช้ในงานทางเซรามิกนั้น เริ่มต้นจากการนำกระดูกของสัตว์เช่น วัว ควาย มาล้างทำความสะอาดพวกคราบไขมัน เลือด ออกให้หมด แล้วนำไปเผา (Calcine) ที่อุณหภูมิประมาณ 900-1000°C โดยมีการควบคุมปริมาณสารอินทรีย์ในเถ้ากระดูกไว้เพื่อเป็นตัวช่วยให้เกิดความเหนียวอยู่บ้าง โดยควบคุมค่าความถ่วงจำเพาะให้อยู่ที่ 1.9-2.0 g/ccหลังจากนั้นนำไปบดโดยใช้ Ball mill ควบคุมความละเอียดของน้ำสลิป เมื่อได้ความละเอียดตามที่ต้องการแล้ว จึงนำไปอบแห้ง เพื่อเก็บไว้ใช้งานต่อไป ถ้า Bone ash มีการเก็บ stock ไว้มาก จำเป็นจะต้องใส่ถุงและปิดให้สนิท เพื่อป้องกันการเกิดปฏิกิริยากับ CO2 เพราะจะทำให้การไหลตัวของน้ำสลิปที่ผสม Bone ash เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากทำให้เกิดปัญหาในการเทแบบ

Bone ash เป็นวัตถุดิบ สำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทโบนไชน่า (Bone China) โดยทำหน้าที่เป็นตัวช่วยลดจุดหลอมตัว นอกจากนี้ยังทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์มีความขาวมากขึ้น และมีความโปร่งใส (Translucent) ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์โบนไชน่าดูสวยงามน่าใช้งานและมีราคาสูงกว่าผลิตภัณฑ์เซรามิกชนิดอื่น

แต่ปัญหาของการใช้ Bone ash ในเนื้อผลิตภัณฑ์ ก็คือ จะมีการหดตัวสูง มีการเกิดเนื้อแก้วขึ้นมาก และช่วงอุณหภูมิในการเผาแคบ ผลิตภัณฑ์มีโอกาสที่จะเกิด Over firing ได้ง่าย ดังนั้นโดยปกติของกระบวนการผลิตโบนไชน่านั้นหลังจากได้ผลิตภัณฑ์ดิบแล้ว จะเผาบิสกิทที่อุณหภูมิสูง โดยมีตัว support รองเผาเพื่อกันไม่ให้ผลิตภัณฑ์บิดเบี้ยว แล้วจึงนำไปชุบเคลือบ ซึ่งเมื่อเผาบิสกิทที่อุณหภูมิสูงนั้นทำให้ รูพรุนในเนื้อบิสกิทเหลือน้อยมาก การชุบเคลือบจึงเป็นไปได้ยาก ผลิตภัณฑ์โบนไชน่า จึงมักมีการอุ่นบิสกิทก่อนการชุบ หรือสเปรย์เคลือบเพื่อช่วยให้เคลือบยึดติดได้ง่ายขึ้น รวมทั้งเติมตัวช่วยยึดเกาะ (Binder) ลงไปในน้ำยาเคลือบด้วย หลังจากเคลือบแล้ว จึงนำไปเผาเคลือบอีกครั้งที่อุณหภูมิต่ำ (อยู่ในช่วงต่ำกว่าเผาบิสกิท 100°C เพื่อป้องกันการเกิด Over firing ของเนื้อดิน)

การใช้งาน Bone ash ในเคลือบนั้น มีการเติมลงไปเพื่อจุดประสงค์ที่จะทำให้เกิดความทึบแสง (Opacity) ที่อุณหภูมิต่ำ ส่วนเคลือบอุณหภูมิสูงนั้น มีการเติม Bone ash ลงไปในปริมาณไม่มากนัก (ไม่เกิน 4 %) เพื่อช่วยปรับปรุงสีให้มีความหลากหลายเฉดสี โดยเฉพาะพวกเคลือบสีแดงของคอปเปอร์ (Copper red) และพวกเคลือบผลึกของ Fe-Ti ที่เป็นสีน้ำตาลทอง

ในโลหะเคลือบมีการใช้งาน Bone ash เพื่อเป็นตัวเติมให้ทึบแสงเช่นกัน แต่ต้องระวังปัญหาเรื่องรูพรุน รูเข็ม และเคลือบหลุดร่อนออกจากโลหะที่ทำการเคลือบได้