กระเบื้องแสงรุ้งกลาสโมเสค
Pakarung - Think Ceramic Think Pakarung
ซิเบลโก้ มิเนอร์รัลส์ จัดหาแร่คุณภาพสำหรับอุุตสาหกรรมเซรามิคส์
Ferro
Keramat
MS Industrial Supplies
Ceramics R Us
แนวทางในการเลือกใช้งานกระเบื้องเซรามิก (2)

แนวทางในการเลือกใช้งานกระเบื้องเซรามิก (2)
ดร. คชินท์ สายอินทวงศ์

ในบทความที่แล้วได้พูดถึงรายละเอียดและการใช้งานกระเบื้องบุผนังและกระเบื้องปูพื้นไปแล้ว เรายังมีกระเบื้องประเภทอื่นๆที่มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดปัจจุบันอีกหลายประเภท ทั้งกระเบื้องโมเสค,กระเบื้องแกรนิต,กระเบื้องเคลือบแกรนิต,กระเบื้องThird firing,กระเบื้องที่ได้จากการรีด(Extrusion),กระเบื้องเนื้อแดงแบบไม่เคลือบ(Terra cotta),กระเบื้องตกแต่งที่มีรูปร่างพิเศษ

กระเบื้องโมเสค(Mosaic)

เป็นกระเบื้องที่มี%การดูดซึมน้ำต่ำ มีความแข็งแรงสูง เนื้อกระเบื้องจัดอยู่ในประเภทพวก porcelain มักเป็นกระเบื้องที่มีขนาดเล็ก(ต่ำกว่า4นิ้วลงไป) ผู้ผลิตจะทำการนำโมเสคเหล่านี้ไปติดบนsheetซึ่งทำมาจากไนล่อน เวลาปูก็ทำการปูไปทั้งsheet จำนวนชิ้นของโมเสคในแต่ละsheetนั้นขึ้นกับขนาดของโมเสคที่นำมาติดกับsheet

สีของตัวกระเบื้องโมเสคจะมีความเข้มอ่อนแตกต่างกันได้ โดยมาจากสภาพความแตกต่างของอุณหภูมิเตาในแต่ละตำแหน่งของเตา โดยผู้ผลิตจะนำกระเบื้องโมเสคเหล่านี้มาจัดเรียงเฉดสีให้กลมกลืนกันภายใน1sheet เรียกว่าการ Mix pattern ซึ่งการที่เกิดความเข้มอ่อนของสีในแต่ละsheetนั้นถือว่าเป็นเสน่ห์หรือเป็นเอกลักษณ์ของกระเบื้องโมเสคทีเดียว ซึ่งลูกค้าที่เลือกใช้กระเบื้องประเภทนี้จึงมักจะชอบที่ความต่างของเฉดสีของกระเบื้องชนิดนี้ นอกจากนี้ในปัจจุบันผู้ผลิตยังได้นำเทคโนโลยี่สำหรับการตกแต่งลวดลายที่ใช้กับกระเบื้องปูพื้นหรือบุผนังมาใช้กับการผลิตกระเบื้องโมเสคด้วยทำให้กระเบื้องชนิดนัมีลูกเล่นมากขึ้นกว่าในอดีตที่มีเอกลักษณ์อยู่เพียงการผสมกันของเฉดสีของแต่ละแผ่น

กระเบื้องโมเสคสามารถใช้ได้ทั้งการปูพื้นและบุผนัง นอกจากนี้ยังสามารถใช้ปูผนังด้านนอกของอาคารซึ่งมักนิยมกันมากในประเทศญี่ปุ่น เราเรียกกระเบื้องโมเสคที่ใช้ปูนอกอาคารว่า Facing tile ตัวfootingของfacing tileนี้จะมีความลึกมากกว่าโมเสคปกติเพื่อความสามารถในการยึดติดได้ดีขึ้น การปูfacing tileมักจะใช้วิธีปูไปบนแผ่นคอนกรีตสำเร็จก่อน เมื่อเรียบร้อยแล้วจึงสามารถยกขึ้นไปติดตั้งพร้อมกับการก่อสร้างอาคารได้เลย ขัอดีของกระเบื้องfacing tileก็คือสีจะสามารถคงทนอยู่ได้ดีกว่าสีทาอาคารและยังสามารถทำความสะอาดได้ง่ายกว่า ไม่สกปรกหรือขึ้นราได้ง่ายเนื่องจาก%การดูดซึมน้ำต่ำมาก การเลือกใช้กระเบื้องโมเสคสำหรับปูพื้นนั้นควรเลือกประเภทของเคลือบที่มีผิวไม่มันมากนักเพื่อจะได้ไม่มีอันตรายเวลาพื้นลื่น นอกจากนี้ความสามารถในการทนทานต่อสารเคมีนั้นกระเบื้องโมเสคจะมีความทนทานได้ดีกว่ากระเบื้องปูพื้นหรือบุผนังเนื่องจากกระเบื้องโมเสคใช้อุณหภูมิในการเผาที่สูงกว่าดังนั้นจึงสามารถใช้วัตถุดิบที่ทนทานต่อสารเคมีได้ดีกว่ากระเบื้อง2ชนิดที่ได้กล่าวมาแล้ว

ข้อเสียของกระเบื้องชนิดนี้จะอยู่ที่ปัญหาการทำความสะอาด เนื่องจากกระเบื้องนี้มีขนาดเล็กทำให้มีรอยต่อระหว่างแผ่น(joint) มากซึ่งบริเวณดังกล่าวเวลาทำการปูจะต้องใช้ปูนซิเมนต์ขาวในการยาแนว ซึ่งบริเวณนี้จะมีโอกาสที่จะเกิดคราบความสกปรก,ตะไคร่สีเขียว ได้ง่ายถ้าไม่ดูแลรักษาดีพอก็อาจจะทำให้เกิดสิ่งสกปรกขึ้นมาได้

กระเบื้องแกรนิต

เป็นกระเบื้องที่มี%การดูดซึมน้ำต่ำมาก(มีผู้ผลิตบางราย สามารถพูดได้ว่าไม่ดูดซึมน้ำเลย) มีความแข็งแรงสูง เนื้อผลิตภัณฑ์เป็น porcelain มีคำเรียกกระเบื้องชนิดนี้อยู่หลายคำอาทิเช่นHomogeneous tile,Granite tile,Granito tile,Porcelain tile ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นคำเรียกกระเบื้องที่มีการผลิตเลียนแบบหินธรรมชาติ โดยการนำเอาสีเซรามิกเข้าไปผสมกับเนื้อดินเพื่อให้เกิดสีขึ้นในเนื้อดิน เทคโนโลยี่เริ่มต้นเมื่อประมาณสิบกว่าปีก่อนเริ่มจากการพยายามผลิตกระเบื้องให้มีลักษณ์และสีสันใกล้เคียงหินแกรนิตธรรมชาติ มีทั้งแบบไม่ขัดผิวหน้าและขัดพื้นผิวให้มีความมันเหมือนในการขัดหินแกรนิต ต่อมาได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี่การผลิตอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของเครื่องจักร ส่วนของเทคนิคการผลิต การตกแต่งลวดลาย ทำให้สามารถผลิตกระเบื้องที่เลียนแบบหินธรรมชาติได้แทบบุกชนิด ทั้งสีสันและลวดลายจนบางครั้งเราแทบไม่อาจจะแยกได้ว่าแผ่นไหนเป็นกระเบื้องที่มนุษย์ผลิตหรือแผ่นไหนเป็นหินที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้นมา

เนื่องจากกระเบื้องแกรนิตได้มีการนำสีเซรามิกใส่ผสมลงไปกับเนื้อดินเลยทำให้กระเบื้องทั้งแผ่นมีสีเหมือนกันดังนั้นเมื่อใช้กระเบื้องไปนานๆจนเกิดการขัดสีหรือการกร่อนของผิวหน้ากระเบื้องก็ยังจะไม่เกิดปัญหาเหมือนกับกระเบื้องที่ใช้การเคลือบผิว เพราะเมื่อผิวหน้าด้านบนสึกไปพื้นด้านส่างก็ยังคงมีสีเช่นเดียวกันกับพื้นด้านบน แต่สำหรับกระเบื้องแกรนิตที่ผ่านการขัดผิวจนมันเงาแล้วอาจจะพบปัญหาผิวหน้าหมองและด้านขึ้นเมื่อใช้ไปนานๆได้

คุณสมบัติที่สำคัญของกระเบื้องแกรนิต

1 %การดูดซึมน้ำ,น้ำมันจะต่ำมาก เนื่องจากวัตถุประสงค์ของกระเบื้องชนิดนี้ต้องการให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ได้ในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นด้านในอาคาร ด้านนอกอาคาร ที่จอดรถ สถานที่สาธารณะที่มีผู้คนพลุกผล่านโดยเฉพาะกระเบื้องที่ผ่านการขัดผิวมาแล้ว ซึ่งการขัดผิวก็เหมือนกับการเปิดรูพรุนที่ผิวหน้าของกระเบื้องซึ่งจะมีโอกาสทำให้ฝุ่นละออง,สิ่งสกปรก,คราบน้ำมัน เข้าไปแทรกอยู่ภายในรูพรุนเหล่านั้นได้ ถ้าเราสามารถผลิตกระเบื้องที่มีรูพรุนน้อยที่สุดหรือปราศจากรูพรุนเลยก็จะช่วยลดปัญหาดังกล่าวไปได้

2 ความแข็งแรงสูง เนื่องจากวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้ผู้ใช้งานสามารถใช้เป็นทางเลือกในการนำไปปูพื้นที่จอดรถ พื้นทางเดิน ทางเข้าบ้าน ซึ่งจะต้องรับแรงกดมากกว่าปกติ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีความแข็งแรงที่สูงเพียงพอ

3 ความมันของผิวหน้ากระเบื้องที่ขัดแล้ว ซึ่งสามารถวัดได้โดยใช้เคริ่งวัดความเงาของผิวหน้า(glossy meter) ซึ่งความมันของผิวนี้จะเป็นตัวบอกความสวยงามและคุณภาพของผู้ผลิตได้เป็นอย่างดี

4 ขนาดของกระเบื้องที่ผ่านการตัดขอบและผ่านการขัดแล้ว จะต้องมีขนาดใกล้เคียงกันมาก ซึ่งจะช่วยให้การปูกระเบื้องปูได้ชิดกันจนแทบมองไม่เห็นรอยยาแนวเลย ซึ่งจะทำให้เกิดความสวยงามและดูเหมือนการปูหินธรรมชาติมาก

ข้อดีของกระเบื้องแกรนิตเมื่อเปรียบเทียบกับหินธรรมชาติ(เช่นหินอ่อน,หินแกรนิต)

1 มีความแข็งแรงมากกว่า โดยเฉพาะการรับแรงกดของกระเบื้องจะมีค่าสูงกว่าหินธรรมชาติ
2 สามารถควบคุมเฉดสีได้ดีกว่า ซึ่งจะทำให้มีสีที่กลมกลืนกว่าหินธรรมชาติ
มีสีสันและลวดลายให้เลือกมากมายตามที่ลูกค้าต้องการ
4 น้ำหนักต่อแผ่นจะเบากว่า เนื่องจากสามารถทำให้มีความหนาน้อยกว่าหินธรรมชาติ
5 ราคาถูกกว่าหินธรรมชาติ โดยเฉพาะสีพิเศษบางสีเช่นสีดำ สีแดงเลือดนกซึ่งแหล่งหินธรรมชาติในเมืองไทยไม่มีหินสีเหล่านี้ จำเป็นต้องสั่งซื้อมาจากต่างประเทศดังนั้นราคาจึงสูงขึ้นอีกมาก
6 ช่างปูกระเบื้องสามารถปูได้ง่ายกว่าการปูหินธรรมชาติ การตัดสามารถใช้เคื่องมือปกติที่ใช้ตัดกระเบื้องทั่วๆไปได้

กระเบื้องเคลือบเนื้อแกรนิต

มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับกระเบื้องแกรนิต ทั้งในเรื่อง%การดูดซึมน้ำ,ความแข็งแรง แต่ที่ผิวหน้าจะมีการเคลือบสีและตกแต่งลวดลายเพื่อให้เกิดความสวยงามรวมทั้งช่วยปรับปรุงคุณสมบัติด้านการขัดสี,การขูดขีด ให้มีความทนทานด้วย เคลือบที่ใช้กับกระเบื้องแกรนิตนั้นมักจะเป็นเคลือบที่มีความทนทานทั้งกับสารเคมีและการขัดสีจึงสามารถใช้กระเบื้องชนิดนี้ได้ในทุกพื้นที่รวมทั้งภายนอกอาคารและสถานที่สาธารณะต่างๆที่มีผู้คนสัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก

กระเบื้องชนิดนี้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในประเทศแถบยุโรปและอเมริกาที่มีอากาศหนาวเย็น ที่อณหภูมิในช่วงฤดูหนาวจะต่ำกว่าจุดเยือกแข็งจนทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่งถ้ากระเบื้องมี%การดูดซึมน้ำสูงก็จะพบปัญหาน้ำที่อยู่ตามรูพรุนกลายเป็นน้ำแข็งและถ้ามีปริมาณมากอาจทำให้กระเบื้องแตกได้เนื่องจากการขยายตัวของน้ำแข็ง เราเรียกคุณสมบัติที่สามารถทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่อุณหภูมิต่ำมากนี้ว่าFrost resistance

กระเบื้องThird firing

เป็นกระเบื้องตกแต่งที่มีการเผาหลายครั้งและหลายอุณหภูมิเพื่อให้เกิดความสวยงาม ได้จากการนำกระเบื้องปูพื้น,บุผนัง หรืออื่นๆที่ผ่านการเผาแล้วมาทำการตกแต่งลวดลายเพิ่มเติมแล้วนำไปเผาที่อุณหภูมิต่ำกว่าอุณหภูมิที่ใช้ผลิตกระเบื้องดังกล่าว อุณหภูมิที่ใช้เผานั้นขึ้นอยู่กับสีที่นำมาตกแต่ง อาจมีการเผามากกว่าหนึ่งครั้งก็ได้ขึ้นกับชนิดของสีที่นำมาตกแต่ง กระเบื้องชนิดนี้จะใช้ตกแต่งควบคู่ไปกับกระเบื้องชนิดต่างๆที่นำมาเป็นพื้นเพื่อให้เกิดความสวยงามขึ้น ซึ่งลวดลายนั้นมีทั้งลายดอกไม้ ลายกราฟิก รูปการ์ตูน ภาพธรรมชาติ หรือแม้แต่ภาพอิมเพรสชั่นนิสก็ยังสามารถนำมาใช้กับกระเบื้องได้ การใช้งานมีได้ทั้งเป็นกระเบื้องตัดขอบ(Border) หรือเป็นกระเบื้องที่มีลวดลายแซมอยู่ทั่วไปของพื้นที่ (Spot tile) ข้อควรระวังของกระเบื้องชนืดนี้คือความทนทานของสีที่นำมาตกแต่งต่อการขูดขีด ต่อสารเคมีจะต่ำถึงแม้ว่าจะผ่านการเผามาแล้วก็ตาม

กระเบื้องที่ได้จากกระบวนการรีด(Extrude tile or Spilt tile)

ความแตกต่างของกระเบื้องชนิดนี้กับกระเบื้องที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นอยู่ที่กระบวนการผลิต โดยกระเบื้องชนิดนี้จะขึ้นรูปโดยการนำดินที่มีความชื้นสูงมาเข้าเครื่องรีดผ่านหัวแบบ(die) ให้ได้รูปร่างตามแบบ แล้วจึงตัดตามขนาดที่ต้องการ คุณสมบัติต่างๆของกระเบื้องหลังเผาแล้วก็จะใกล้เคียงกับกระเบื้องปูพื้นทั้งในเรื่อง%การดูดซึมน้ำ,ความแข็งแรง,ความทนทานต่อสารเคมี แต่สิ่งที่กระเบื้องชนิดนี้ทำได้ยากก็คือความหลากหลายของขนาดกระเบื้องโดยเฉพาะกระเบื้องที่มีขนาดใหญ่ สำหรับลวดลายและสีสันนั้นได้มีการพัฒนาให้ลวดลายหลากหลายขึ้นจากเดิมที่มีเพียงการเคลือบสีเพียงอย่างเดียว ซึ่งตามท้องตลาดเราจะเริ่มเห็น spilt tile ที่มีลวดลายสวยงามเพิ่มขึ้น

การใช้งานสามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร มีผู้ผลิตบางรายผลิตกระเบื้องที่มีรูปทรงพิเศษใช้สำหรับเป็นจมูกบันได ทำให้การปูกระเบื้องตามขั้นบันไดมีความสวยงามเพิ่มขึ้นและช่วยลดความคมของรอยต่อกระเบื้องตรงขอบบันไดได้

กระเบื้องเนื้อแดงไม่เคลือบ(Terra cotta)

ผลิตมาจากดินแดงหรือดินที่มี%เหล็กออกไซด์สูง มีทั้งการขึ้นรูปแบบpressing ,extruding และการขึ้นรูปด้วยมือ มี%การดูดซึมน้ำสูง ความแข็งแรงไม่สูงมากนัก เหมาะใช้สำหรับตกแต่งบ้านให้สวยงามมากกว่าคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยที่แท้จริง มีราคาถูกกว่ากระเบื้องชนิดอื่นๆ ปัญหาที่พบได้มากในการใช้งานกระเบื้องประเภทนี้คือเรื่องความสกปรกบนผิงหน้าจะเกิดขึ้นได้ง่ายแต่กำจัดออกไปได้ยาก รวมทั้งการเกิดตะไคร่น้ำซึ่งจะทำให้ลื่นง่ายจะเกิดอันตรายกับผู้ใช้งานได้ จึงไม่เหมาะที่จะใช้งานในพื้นที่ภายนอกอาคารที่ถูกน้ำ ในพื้นที่ที่เปียกชื้นเสมอๆ พื้นที่ที่ต้องรับแรงมาก

ทั้งหมดนี้คือรายละเอียดของกระเบื้องในแต่ละประเภท และความเหมาะสมในการใช้งานที่ผู้ผลิตมีความตั้งใจผลิตขึ้นมาเพื่อสนองความต้องการให้กับลูกค้าให้มากที่สุด ซึ่งถ้าผู้ใช้งานใช้ได้ถูกต้องตามที่ผู้ผลิตออกแบบมาให้แล้วก็จะเกืดปัญหาได้น้อยที่สุด หรือแม้ว่าเกิดปัญหาขึ้นได้ก็ยังสามารถร้องเรียนไปยังหน่วยงานบริการหลังการขายเพื่อให้มาตรวจสอบและแก้ไขให้ได้ ซึ่งมีทั้งการซ่อมแซมหรือชดเชย