ถามถูกคนแล้วครับ ผมลองคิดเล่นๆว่าตั้งแต่เริ่มทำงานครั้งแรกกับคอตโต้ เรื่อยมาจนเป็นที่ปรึกษาบริษัท ผมลดต้นทุนให้บริษัทเหล่านี้ไปเท่าใด กดเครื่องคิดเลขคร่าวๆน่าจะเกินสามร้อยล้านบาท ถ้าเป็นเงินเราคงรวยเละ
แนวทางในการลดต้นทุนนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องรู้จักต้นทุนของเราก่อน ดังนั้นระบบ Cost structure จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ถ้าบริษัทใดมีระบบต้นทุนที่ดี ซึ่งจะช่วยให้เรารู้ STD cost ในแต่ละกระบวนการตั้งแต่วัตถุดิบ การเตรียมวัตถุดิบ การขึ้นรูป การทำแบบพิมพ์ การเคลือบ สูตรเคลือบ การตกแต่ง การเผา ของเสียในแต่ละกระบวนการ ค่าแรง กระบวนการpack
เมื่อมี STD cost แล้วเราก็ต้องรู้ Actual ในแต่ละเดือน ความแตกต่างของต้นทุนมาตรฐานกับต้นทุนจริงเราเรียกว่า Cost variance ถ้า Varianceติดลบมากแสดงว่ากระบวนการเรามีปัญหาต้องรีบเข้าไปแก้ไขทันทีไม่ว่าจะด้วย Action plan หรือการทำ Daily management
เมื่อควบคุม Variance ได้แล้ว คราวนี้ก็มาถึงการปรับปรุงให้ STD cost ของเราลดลงในแต่ละปี เพราะค่าแรง ค่าgas ค่าวัตถุดิบ จะขยับขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะปีนี้ที่มีแต่ข่าวร้ายของราคาวัตถุดิบดังนั้นถ้าเราไม่มีแผนการปรับปรุงก็เตรียมกำไรหดหรือขาดทุนได้เลย
การลดต้นทุนเริ่มตั้งแต่การปรับสูตรเนื้อดินเพื่อใช้วัตถุดิบที่ถูกลง หลายๆบริษัทหาวัตถุดิบที่เหมือนเดิมแต่ราคาที่ถูกลงซึ่งมักจะเป็นไปได้ยาก แต่ถ้าปรับสูตรโดยหาวัตถุดิบใหม่แต่ให้คุณสมบัติรวมของเนื้อดินยังเหมือนเดิมจะปรับได้ง่ายและมีทางเลือกให้ได้มากกว่า อย่าไปยึดติดกับวัตถุดิบเดิมๆ วิธีการเดิมๆ และต้องออกไปหาวัตถุดิบเอง อย่ารอให้ Suppliers วิ่งเข้าหาเพราะ suppliersก็ต้องบวกราคาเพิ่มอยู่แล้ว หาเองเจอผู้ผลิตเองหรือไปเจอเหมือองเองจะดีกว่า การปรับกระบวนการผลิตก็จะช่วยลดต้นทุนได้ เช่นปรับวิธีการบดใช้ลูกบดอลูมิน่าแทนลูกหิน ปรับสัดส่วนลูกบดให้มีประสิทธิภาพในการบดที่ดีขึ้น เมื่อบดได้ดี Particle size distribution ก็จะดีได้อนุภาคละเอียดขึ้นก็จะช่วยทำให้การหลอมตัวดีซึ่งเราอาจลด Fluxเช่น feldspar ลงได้
ถ้าโรงงานมีปริมาณการใช้วัตถุดิบมาก การประมูลราคาจะเป็นทางเลือกที่ดี ส่วนโรงงานเล็กๆควรรวมตัวกันและร่วมกันซื้อหรือหา suppliersที่จริงใจกับเรา ผมเจอหลายรายที่ถูก suppliersฟันราคาโดยเห็นว่าเป็นโรงงานเล็ก จริงๆแล้วโรงเล็กๆนี่แหละที่suppliersควรช่วยเหลือไม่ใช่ซ้ำเติมเขา
การปรับเตาเพื่อลดgasก็มีหลายแนวทางมาก เช่นเดียวกับการลดของเสีย ถ้าจะให้เข้าไปช่วยประจำนั้นคงไม่ไหวจริงๆครับเพราะช่วงนี้ไม่เหลือวันว่างแล้ว แต่ถ้าจะให้เข้าไปตรวจ แนะนำหรือสอนเป็นครั้งๆคงพอได้ครับ |