1. Upper punch นั้นเป็นคำเรียกรวมๆซึ่งอาจเป็น Punch เหล็กธรรมดาหรือหุ้มยางโดยที่ภายในเป็นเหล็กตัน แน่ถ้าเป็น Isostatic punch ภายในจะประกอบไปด้วยลูกสูบ ท่อน้ำมันและสายน้ำมันเพื่อให้แรงดันกระจายไปทั่วถึงในทุกๆจุดของ Punch

2. แน่นอนว่าต้องเป็นPunch ธรรมดาครับ เพราะไม่มีอะไรอยู่ภายในเลย

3. จริงแท้แน่นอนครับ เพราะ Iso punch จะช่วยกระจายแรงดันในแต่ละจุดของPunch โดยน้ำมันที่วิ่งไปตามท่อ ซึ่งจะดีกว่า Punch ธรรมดาที่ไม่มีน้ำมันมาช่วย แต่ถึงเรามี Iso punch ที่ดี แต่การ Feed ดินหรือการการตั้งระดับ Punch, charger ไม่ดีพอ Iso punch ก็ยังทำให้เกิด Size variation ได้อยู่ดีครับ

4. ข้อเสียของ Iso punch คือ ต้องหมั่นตรวจสอบแรงดันน้ำมัน คอยเติมน้ำมัน คอยตรวจดูสภาพผิวหน้าของ Punch มีราคาแพงและต้องระวังในการใช้งาน โอกาสเสียหายมีมาก

    ส่วน Punch ธรรมดา ข้อเสียคือคุมขนาดและเรื่อง Crook ยาก ถ้าต้องการกระจาย Pressure ต้องใช้วิธีการ Shim mould อย่างเดียว

5. ถ้าความหนาลูกสูบไม่เท่ากันใน Punch เดียวกัน Punch ก็จะเสียหายเร็วครับ เรื่อง size ยังไม่ถึงกับมีผลมากเพราะสุดท้ายน้ำมันก็กระจายไปได้อยู่ดี แต่สิ่งสำคัญคืออายุของ Punch ครับ

6. บางบริษัทเขามีเทคนิคในเรื่องการออกแบบขนาดลูกสูบให้ไม่เท่ากัน เพื่อผลในเรื่องการกระจายแรงดันในแต่ละตำแหน่งของPunch ถ้าออกแบบดีจะช่วยเรื่อง size ครับ แต่ถ้าออกแบบไม่ดีนอกจากไม่ช่วยแล้วยังจะสร้างปัญหาด้วย เพราะฉะนั้นบริษัททำ Mould ที่เราจ้างเขาทำต้องมือถึงจริงๆ อย่าไปจ้างบริษัทที่ไม่เก่งหรือ สุกเอาเผากิน เพราะ Mould punch charger คือหัวใจสำคัญของเรื่อง Size variation, crook, wedging ไม่ใช่ที่เตาอย่างที่หลายโรงงานไปปรับเตาเพื่อแก้เรื่อง size โอเคมันปรับช่วยได้จริง แต่เราต้องถามถึงสาเหตุที่แท้จริงว่ามันมาจากไหน ปัญหาเรื่อง size มันมาจาก Press ผมให้สัดส่วนมากกว่า 70% เลยครับ ถ้าคุมPress ได้ดี ตรวจรับ Mould แบบละเอียด Operator มีฝีมือคุมเครื่อง ไม่ใช่แค่กดปุ่ม Start,stop,reset อย่างเดียว เราก็จะได้กระเบบื้อง Green ที่มี density ใกล้เคียงกันและแน่นอน Fired tile ก็จะมีคุณภาพที่ดีตามไปด้วย