สีเซรามิกที่ดีนั้นจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้

1. ทนอุณหภูมิสูงที่1250 องศาได้โดยสีไม่ซีดจาง สีหลายบริษัท โดยเฉพาะสีจีนจะซีดลงที่อุณหภูมิสูงเพราะสีเหล่านี้ Calcine ที่อุณหภูมิต่ำ ราคาจึงถูกได้ ดังนั้นเมื่อมาเจออุณหภูมิสูงในเตาลูกค้าสีก็มีโอกาสหายได้ครับ

2. มี Soluble salt ต่ำ สีที่ดีผู้ผลิตต้องล้างหลายรอบเลยครับ ผมเคยดูที่ Ferro สเปน เขาล้างถึง5รอบเพื่อให้เกลือที่อยู่ในวัตถุดิบหายไป ในขณะที่สีจีนแทบไม่ล้างกันเลย ซึ่ง Soluble salt นี้จะส่งผลต่อการไหลตัวของเคลือบ ทำให้ความหนืดเคลือบเปลี่ยนไป มี Thixo มากขึ้น ทำให้เคลือบเป็นฝ้าขาวหลังเผา ทำให้เคลือบเป็นรูพรุนหลังเผา

3. มีขนาดอนุภาคละเอียด การตรวจรับสีของโรงงานปัจจุบันผมให้ตรวจรับกากค้างตะแกรงที่ 400 เมชครับ เพราะที่ 325 เมชต้องไม่มีค้างเลย แต่สีบางเจ้า ที่ 325 เมชยังมีกากถึง 1%ก็มี ดังนั้นการบดของเราก็จะมีปัญหาและส่งผลถึงเฉดสีได้ครับ

4. เมื่อผสมกับเคลือบพื้นฐานแล้วทดลองลากเคลือบเอาเข้าเผาผิวหน้าต้องไม่เกิดรูพรุน ซึ่งการเกิดรูนั้นมาได้จาก Salt ในสีและความละเอียดของสี รวมทั้งองค์ประกอบทางเคมีของสีด้วย

5. เผาเตา Gradient แล้วสีไม่แตกต่างกันมากที่ temp dif 50 องศา ถ้าไม่มีเตา Gradientก็ใช้การเผาในแต่ละตำแหน่งของเตาแล้วดูค่าความแตกต่างของสีหลังเผา

บริษัทที่รับผิดชอบหมายความว่าอย่างไรครับ ถ้าให้เดาก็คือไม่รับผิดชอบเวลาเกิดปัญหาหรือโทษว่าเป็นที่เราไม่ใช่ที่สี ไม่รับ Claim หรือโยกโย้ หรืออาจไม่เข้ามาถามไถ่ปัญหาอยู่เป็นประจำ เรื่องพวกนี้ผมไม่อยากแนะนำว่าเจ้าไหนดีกว่าเจ้าไหนครับ เดี๋ยวผิดใจกัน เพราะเป็นพี่น้องกันหมด แต่ถ้าให้แนะนำบริษัทสีที่มีคุณภาพก็พอได้ครับ ก็มีของ Ferro cerdec Ferro thailand Torrecid Minetech Nitto Iseku แนะนอนราคาอาจแพงกว่า แต่อย่าไปดูราคาอย่างเดียวต้องดูปริมาณการใช้ที่อาจลดลงได้ ดูความสม่ำเสมอ ดูตำหนิที่เกิดขึ้น %YieldA ที่ได้ครับ