จริงแล้ว ถ้วย จาน ชาม เรามีแผนปรับลดต้นทุนกันทุกปีอยู่แล้วครับ
มิฉะนั้น คงถูกประเทศอย่างจีนกลืนตลาดเราไปหมดแล้ว ถึงแม้ว่าคุณภาพ
เราจะดีกว่า แต่ลูกค้าก็ยังเรียกร้องขอราคาที่ถูกลง แน่นอนต้นทุนคือปัจจัย
ของความอยู่รอด
แต่เราเน้นการควบคุมกระบวนการ ให้นิ่งที่สุด ผลที่ได้คือประสิทธิภาพ
เราจะสูงขึ้น เหตุที่มองไปทางนี้เพราะ สำหรับโรงงานถ้วย จาย ชาม
Key Off Success อาจจะแตกต่างกับโรงงานกระเบื้อง และปัจจัย
ที่จะส่งผลกระทบในกระบวนการนอจากสีแล้ว รูปทรงก็เป็นปัจจัยที่
จะถูกกระทบตามมา ไม่ว่าจะปรับสูตเคลือบ สูตร Body ดังนั้นถ้าเปรียบ
เทียบกับกระเบิ้องซึ่งจะแข่งขันที่ลวดลาย design และเน้นการผลิตแบบ
Fully automatic ซึ่งการควบคุมการผลิตจะไปอีกแบบหนึ่ง
แต่สำหรับถ้วยจาน ชาม ปัจจัยของต้นทุนการผลิต ถ้วย จาน ชาม
ไม่ได้เกิดจากวัตถุดิบแพงหรือถูกจะเป็นตัวชี้ขาดเพียงอย่างเดียวว่าเรา
จะอยู่รอดหรือไม่ ขี้นอยูกับหลายองค์ประกอบและต้องเสริมอีกนิดว่า เราใช้คน
ถึง 70 % เครื่องจักร 30% เท่านั้นที่ทำงานแทนคน เมื่อคนเข้ามาเกี่ยวข้อง
เช่น ชุบเคลือบด้วยมือ ตกแต่งด้วยมือ จัดเรียง ลงของ ด้วยมือ อาจะมีเครื่องเสริม
ปัจจัยเหล่านี้จะทำให้การบริหารจัดการจะเน้นหนักไปคนละแบบ
สำหรับโรงงานที่ผมเคยอยู่ เทคโลยีเท่าเทียมกับ Noritake ,Nikko
เรามีเครื่องจักรที่ทันสมัยเท่าที่โรงงานดังๆของโลกเช่น Denby เขาใช้กัน
ก็ยังไม่สามารถจะใช้เครื่องจักรแทนคนได้อย่างเต็มที่
มีเพียงโรงงานในโลกนี้ไม่กี่โรงเท่านั้น ย้ำว่าไม่กี่โรง ที่สามารถออกแบบ
การผลิตให้เป็นแบบ Fully Automatic แบบโรงงานกระเบื้อง แต่โรงงาน
เหล่านี้ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล คำว่ามหาศาล หมายถึง ลงทุนหนึ่งโรง
เท่ากับเงินลงทุนโรงงานทั่วไปถึง 10เท่า ต้องขายจานใบละ 600-700 บาทถึง
จะอยู่ได้ในขณะที่ปัจจุบันราคาขายส่งออกของเกือบทุกโรงงานที่เป็น OEM ใน
เอเชีย ผมกล้าท้าพิสูจน์ว่า ไม่เกิน 1.5 USD ต่อชิ้น นี่คือข้อแตกต่างระหว่าง
จาน ชาม กับ กระเบื้อง การแข่งขันจะแตกต่างกัน
เรามองว่า การปรับสูตร ไม่ได้ช่วยให้เราแก้ไขปัญหาได้เท่ากับการทำให้
กระบวนการในการผลิตนิ่งที่สุด ปัญหาในการผลิตของเรา ไม่ได้เกิดจาก
สูตรว่าดีหรือไม่ดี หรือปัจจัยในการเกิดปัญหาอย่างที่บอก ถ้วย จาน ชาม มีถึง
3 มิติครับ การทำสีให้ได้เฉด ได้รูปทรงที่ถูกต้อง แบบเดียวกัน ระหว่าง แจกัน
กับจาน ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะควบคุมให้อยู่นี่ง ดังนั้น ถ้าสูตรนิ่งแล้ว จะไม่มีการปรับกัน
ให้วุ่นวาย ที่สำคัญ อยู่ที่การรควบคุมกระบวนการ ซึ่งจากประสบการและจากการตะเวน
ดูโรงงานดังๆของโลก บอกเลย อยู่ได้ไม่ได้ อยู่ที่การควบคุมกระบวนการให้นิ่ง Yield
คุมให้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ คุณภาพให้ได้ตามที่กำหนด นี่คือปัจจัยที่จะส่งผลสำเร็จ การปรับสูตร
ควรทำเท่าที่จำเป็น และในกรณีที่แหล่งวัตถุดิบเดิมคุณภาพไม่แน่นอนมีความจำเป็นต้องปรับ
เท่านั้น นอกเหนือจากนี้ไปยุ่งกับสูตรจากประสบการ บอกได้ว่าได้ไม่คุ้มเสีย |