กระแสโลกร้อนกำลังแรงมาก ดังนั้นใคทำสินค้าอะไรที่เกี่ยวกับการส่งเสริมที่จะช่วยลดโลกร้อนได้ก็เป็นเรื่องที่ดีและน่าเป็นประเด็นในแง่ที่จะสร้างจุดขายให้กับสินค้าและแบรนด์ของตนเองได้
Eco tile ก็เป็นหนึ่งในสินค้าดังกล่าว โดยการนำเอา Waste ในกระบวนการผลิต โดยเฉพาะ Chamotteและ Scrap หลังเผามาใช้จำนวนมากถึงกว่า 40-50% ในสูตรเนื้อดิน สิ่งที่ผมกำลังนั่งคิดต่อไปนี้คือเราจะทำเพื่ออะไร ผมเคยไปสอนที่โรงงานหนึ่งทำกระเบื้องปูพื้นผมบอกว่าไม่ควรใส่ scrap เกิน 3% แต่พวกเขาบอกด้วยความภูมิใจว่าเขาใส่ไป 15% ซึ่งผมตกใจมากเพราะนั่นหมายถึงเรามีของเสียในกระบวนการถึง 15% และภายหลังมีลูกน้องเก่าที่ดูแลการเผามาบอกผมวาว่างๆก็จะมีกระเบื้อง Cooling crack ออกมาเกือบทั้งเตาโดยที่ไม่ได้ไปปรับอะไรเลย เหตุผลเพราะการใส่scrap ลงไปมากนั้นก็คือการใส่เคลือบที่มีฟริตและflux อยู่มากมายเพิ่มลงไปในสูตรเนื้อดินของเรา ซึ่งแน่นอน COE ก็ต่างไป การหลอมตัวก็ต่างไปมีผลต่อการเผาและตำหนิทั้งสิ้น
การใส่chamotteและscrap ลงไปกว่า 50%ในสูตรนั้นถามว่าทำได้ไหม ผมตอบว่าได้ถ้าเราปรับแต่งสูตรให้ COE มันได้เช่นเดิม แต่ถามว่าแล้วได้ประโยชน์อะไรนอกจากการโฆษณาเสริมภาพลักษณ์ของบริษัทให้คนที่ไม่รู้เรื่องเซรามิก เพราะในความจริงโรงกระเบื้องถ้ามีของเสียขนาดนั้นก็เข้าข่ายเจ๊งอย่างเดียวครับ ในความเป็นจริงบริษัทที่ทำ Eco tile ก็ไม่ได้มีของเสียเยอะเช่นนั้นหรอกและของเสียก็ได้ใช้ไปกับสูตรหมดแล้ว ไม่ว่า UMI SGI RCI TGCI DCC Tile top ก็เรียกได้ว่าใส่ของเสียลงในสูตรหมด ไม่มีใครทิ้งwasteออกมานอกโรงงานเลย เก็บกันแม้แต่ดินในร่องน้ำ ดินจาก Water treatment กากค้างตะแกรง เพราะฉะนั้นถ้าจะเรียก Eco tile ต้องเรียกทุกโรงงานด้วยเช่นกัน อีกประเด็นที่ต้องระวังในการนำ scrap ที่เผาแกร่งแล้วมาใช้คือเราได้เช็คหรือไม่ว่าเราได้ใช้จริง ความหมายก็คือ scrap เหล่านี้บดยากเพราะแข็งมาก เมื่อถ่ายน้ำดินผ่านตะแกรงสั่นเราจะได้กากค้างตะแกรงออกมา กากนั้นกว่า 80%ก็คือ scrapบดนั่นเอง ผมกำลังจะบอกว่าถ้าเราย่อยscrap ไม่เล็กเพียงพอแล้วนำไปบดรวมกับวัตถุดิบตัวอื่นๆ scrap จะยังไม่ละเอียดและก็จะค้างอยู่บนตะแกรง เราก็จะได้แต่ความสบายใจว่าได้ใส่ scrap ลงไปในสูตรแล้ว แต่ได้นำไปใช้จริงหรือไม่อาจไม่ได้เพราะเรากรองทิ้งไปหมด ฟังแล้วอาจขำนะครับ แต่เป็นเรื่องจริงที่โรงงานกระเบื้องเจอะเจอกัน |